ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บล็อกวิชาหลักการและทฤษฎีเทคโนโลยีการศึกษา ของนางสาวทิพวัลย์ พยัควัลย์ โปรแกรมวิชาเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงค่ะ

โครงการสอน

รหัสวิชา TN 6101 ชื่อวิชา หลักการและทฤษฎีเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา 3(2-2-5)
( Principle and Theories of educational technology and innovation )
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552
อาจารย์ผู้สอน นายมงคล ภวังคนันท์
โปรแกรมวิชา เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา คณะครุศาสตร์

จุดประสงค์
1.ให้ผู้เรียนได้ทราบถึงสภาพและปัญหาทางการศึกษาของไทย
2.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายความสำคัญของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
ที่มีต่อการเรียนการสอนได้
3.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายหลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้
4.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายความสัมพันธ์ลักษณะองค์ประกอบและหลักการของเทคโนโลยี
และนวัตกรรมการศึกษาได้
5.ให้ผู้เรียนได้ทราบถึงกระบวนการพัฒนาการของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
6.ให้ผู้เรียนได้ทราบถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษาที่สำคัญและควรรู้จัก

คำอธิบายรายวิชา
.....ศึกษาสภาพปัญหาทางการศึกษาของประเทศไทย หลักการทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ความหมาย ความสัมพันธ์ ลักษณะ องค์ประกอบ หลักการ กระบวนการและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา

การวัดและการประเมินผล
1.การวัดผล คะแนนเต็ม 100 คะแนน
...1.1คะแนนระหว่างภาคเรียน 70 คะแนน
-การอภิปราย/พฤติกรรมการแสดงออก 10 คะแนน
การเข้าร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน
-รายงานบุคคล 20 คะแนน
-รายงานกลุ่ม 20 คะแนน
-ผลงานเทคโนโลยีนวัตกรรม 20 คะแนน

...1.2คะแนนปลายภาค 30 คะแนน
-สอบปลายภาค 30 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล

.....การประเมินผลการเรียน ค่าระดับคะแนนแบ่งเป็น 8 ระดับ
A ดีเยี่ยม 4.0 ระดับคะแนน 80-100
B+ ดีมาก 3.5 ระดับคะแนน 75-79
B ดี 3.0 ระดับคะแนน 70-74
C+ ดีพอใช้ 2.5 ระดับคะแนน 65-69
C พอใช้ 2.0 ระดับคะแนน 60-64
D+ อ่อน 1.5 ระดับคะแนน 55-59
D อ่อนมาก 1.0 ระดับคะแนน 50-54
E ตก 0.0 ระดับคะแนน 0-49



วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คำถามท้ายหน่วยการเรียนที่5

จงตอบคำถามลงในช่องว่างของแต่ละข้อให้ได้ความสมบูรณ์และถูกต้อง

1.การรับรู้ หมายถึงอะไร
ตอบ...กระบวนการแปลหรือตีความต่อสิ่งเร้าข่าวสารที่ผ่านอวัยวะรับสัมผัสเข้าไปยังสมองในรูปของไฟฟ้าและเคมี

2.อวัยวะรับสัมผัสมี 5 ทาง คือ ตา หู จมูก ลิ้น และ กาย

3.องค์ประกอบของกระบวนการรับรู้มี 3 ประการ ได้แก่
...- อาการรับสัมผัส
...- อาการแปลความหมายของอาการสัมผัส
...-ประสบการณ์เดิม

4.ธรรมชาติของการรับรู้มีอะไรบ้าง
...- การเลือกที่จะรับรู้
...- การจัดหมวดหมู่ของสิ่งเร้าอย่างมีแบบแผน
...- ความต่อเนื่อง
...- ความสมบูรณ์

5.สิ่งต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ ได้แก่
...- สิ่งเร้าภายนอก
...- สิ่งเร้าภายใน
...- คุณลักษณะของสิ่งเร้า

6.การเรียนรู้ หมายถึงอะไร
...- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากเดิมไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ก่อนข้างถาวร และพฤติกรรมนี้เป็นผลจากประสบการณ์หรือการฝึกฝนมิใช่การตอบสนองจากธรรมชาติ วุฒิภาวะ หรือความบังเอิญ เป็นต้น

7.จงเขียนแผนภูมิการแบ่งกลุ่มทฤษฎีการเรียนรู้ให้ถูกต้อง
.....ทฤษฎีการเรียนรู้
1.กลุ่มทฤษฎีสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
1.1ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชื่อมโยง
1.2ทฤษฎีการเรียนรู้แบบวางเงื่อนไข
1.2.1)การเรียนรู้แบบคลาสิค
1.2.2)การเรียนรุ้แบบจงใจกระทำ
2.กลุ่มทฤษฎีความรู้ความเข้าใจ
2.1Gestalt T..
2.2Field T.

8.บลูม จำแนกพฤติกรรมการเรียนรู้ออกเป็น 3 หมวด ได้แก่
...- พุทธพิสัย
...- จิตพิสัย
...- ทักษะพิสัย

9.สภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้มี 4 ประการ คือ
...- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม
...- ป้อนข้อมูลย้อนกลับทันที
...- จัดประสบการณ์ที่เป็นผลสำเร็จ
...- การประมาณการที่ละน้อย

10.จงเขียนแผนภูมิกระบวนการเรียนรู้ตามแนวพุทธศาสตร์ให้ถูกต้อง
...การรับรู้ตามแนวพุทธศาสตร์-->1.อวัยวะรับสัมผัส}
............................................................การรับสัมผัส การรับรู้ ความรู้สึก ความจำ ความคิด
.......................................2.สิ่งเร้าภายนอก}

คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่4

จงเติมคำลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้สมบูรณ์และถูกต้อง

1.คำว่า Communis แปลว่า คล้ายคลึง หรือร่วมกัน

2.การสื่อความหมาย หมายถึง กระบวนการสั่งหรือถ่ายทอดความรู้ เนื้อหา สาระ ความรู้สึกต่างๆ ตลอดจนประสบการณ์จากฝ่ายหนึ่ง(ผู้ส่งสาร)สู่อีกฝ่ายหนึ่ง(ผู้รับสาร)

3.Sender --> Message --> Channel --> Reciever

4.สาร หมายถึง เนื้อหาสาระ ความรู้สึก ทัศนคติ ทักษะประสบการณ์ที่มีอยู่ในตัวผู้ส่งหรือแหล่งกำเนิด

5.Elemnts หมายถึง องค์ประกอบย่อยๆ พื้นฐานที่จำเป็นต้องมี
...ตัวอย่างเช่น สระ พยัญชนะ หรือสีแดงสีเหลือง เส้น เป็นต้น

6.Structure หมายถึง โครงสร้างที่นำองค์ประกอบย่อยมารวมกัน
...ตัวอย่างเช่น คำ ประโยค หรือ สีของรูปร่าง รูปทรง

7.Content หมายถึง ข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิด ความต้องการของผู้ส่ง
...ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับอะไร สอดคล้องเหมาะสมกับอะไร

8.Treatment หมายถึง วิธีการเลือก การจัดรหัสและเนื้อหาให้อยู่ที่ถ่ายทอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
...ตัวอย่างเช่น ใช้ Style ในการสื่อความหมาย

9.Code หมายถึงกลุ่มสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาจัดแทนความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ
...ตัวอย่างเช่น ภาษาพูด ภาษาเขียน ดนตรี ภาพวาด กริยาท่าทาง

10.อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายนอก เช่น เสียงดังรบกวน อากาศร้อน แสงแดด

11.อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายใน เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล อาการเจ็บป่วย

12.Encode หมายถึง การแปลความต้องการของคนเป็นสัญลักษณ์หรือสัญญาณต่างๆได้

13.Decode หมายถึง การเลือกสื่อและช่องทางที่ไม่เหมาะสม

14.จงอธิบายการสื่อความหมายในการเรียนการสอนมาให้ครบถ้วนและถูกต้อง
..... กระบวนการเรียนการสอนเป็นกระบวนการสื่อความหมายอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบดัง นี้
ครู --> เนื้อหา หลักสูตร --> สื่อหรือช่องทาง --> นักเรียน

15. จงอธิบายถึงความล้มเหลวของการสื่อความหมายในการเรียนการสอน
...1.ครูผู้สอนไม่บอกวัตถุประสงค์ให้กับผู้เรียน
...2.ผู้สอนไม่คำนึงถึงความสามารถของผู้เรียน
...3.ผู้สอนไม่สร้างความพร้อมให้กับผู้เรียน
...4.ผู้สอนใช้คำยากทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจ
...5.ผู้สอนนำเสนอเนื้อหาวกวน
...6.ผู้สอนใช้สื่อไม่เหมาะสม

คำถามท้ายบทเรื่องสื่อการสอน

1.จงบอกความหมายของสื่อการสอนให้ถูกต้อง
ตอบ...สื่อการสอนหมายถึงวัสดุ อุปกรณ์ หรือวิธีการใดๆก็ตามที่เป็นตัวกลางหรือพาหนะในการถ่ายทอดความรู้
ทัศนคติ ทักษะและประสบการณ์ไปสู่ผู้เรียน

2.จงอธิบายความสำคัญของสื่อการสอนให้ชัดเจน
ตอบ...เป็นองค์ประกอบยิ่งอย่างหนึ่งของการศึกษาหรือการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น

3.จงบอกถึงคุณสมบัติของสื่อการสอนมาอย่างน้อย 3 ข้อ
ตอบ...1)สามารถจัดยึดประสบการณ์ กิจกรรม และการกระทำต่างๆได้
........2)สามารถจัดแจง ปรับปรุง ประสบการณ์ต่างๆได้
........3)สามารถแจกจ่ายและขยายข่าวสารออกเป็นหลายๆฉบับเพื่อเผยแพร่สู่คนจำนวนมาก

4.จงบอกถึงคุณค่าของสื่อการสอนมาอย่างน้อย 5 ข้อ
ตอบ...1)เป็นศูนย์รวมความสนใจของผู้เรียน
……..2)ทำให้บทเรียนเป็นที่น่าสนใจ
........3)ช่วยให้ผู้เรียนมีประสบการณ์กว้างขวาง
........4)แสดงสิ่งที่ลี้ลับให้เข้าใจง่าย
........5)ทำให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ร่วมกัน

5.จงยกตัวอย่างคุณค่าของสื่อการสอนในด้านวิชาการ ด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ และด้านเศรษฐกิจศึกษา อย่างน้อยด้านละ 1 ตัวอย่าง
ตอบ...1)ด้านวิชาการàทำให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรง
........2)ด้านจิตวิทยาการเรียนรู้àทำให้เกิดความคิดรวบยอดเป็นอย่างเดียวกัน
........3)ด้านเศรษฐกิจการศึกษาàช่วยให้ผู้ที่เรียนได้ช้าเรียนด้ายเร็วและมากขึ้น

6.จงจำแนกประเภทของสื่อให้ถูกต้องและชัดเจน
ตอบ...จำแนกประเภทของสื่อได้ดังนี้
...........1)จำแนกตามคุณสมบัติ
...........2)จำแนกตามแบบ
...........3)จำแนกตามประสบการณ์

7.จงบอกหลักการใช้สื่อการสอนให้ถูกต้องชัดเจน
ตอบ...ควรดำเนินตามขั้นตอนดังนี้
...........1)ขั้นการเลือก (Selection)
...........2)ขั้นเตรียม (Preparation)
...........3)ขั้นการใช้หรือการแสดง (Presentation)
...........4)ขั้นติดตามผล (Follow up)

8.จงอธิบายข้อดีและข้อจำกัดของสื่อการสอนให้ถูกต้องอย่างน้อย 2 ชนิด
ตอบ...1)หนังสือ สมุดคู่มือ เอกสารอื่นๆ
-ข้อดีคือ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับบางคนได้แก่การอ่าน
-ข้อจำกัดคือต้นทุนการผลิตสูง
........2)ตัวอย่างของจริง
-ข้อดีคือแสดงภาพตามความเป็นจริง
-ข้อจำกัดคือจัดหาลำบาก